เลิกกังวลเรื่องการพกเพาเวอร์แบงค์ ถ้าเราสร้างไฟฟ้าเองได้
แน่นอนว่าทุกๆคนต้องเคยประสบกับปัญหามือถือแบตหมดตอนอยู่นอกบ้าน และถึงแม้ว่าปัญหาดังกล่าวจะสามารถแก้ไขได้โดยการพกพาแบตเตอร์รี่สำรอง หรือ power bank ไว้ แต่นั้นก็ยังไม่ใช้วิธีการแก้ปัญหาทั้งหมด เพราะถ้าหากเบตสำรองที่เราพกมามีไฟไม่พอที่จะชาร์จมือถือของเรา มันก็ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาแต่อย่างใด แต่ทว่าทุกสิ่งกำลังจะคลี่คลายเมื่อนักวิจัยจาก Chinese Academy of Science (CAS) ได้ค้นพบวิธีที่จะชาร์จมือถือของเราได้โดยการผลิตไฟฟ้าขึ้นมาในเวลาที่ต้องการได้เลย
ในการผลิตไฟฟ้าขึ้นมานั้น ทางนักวิจัยจาก CAS ได้ทำการคิดค้นวัสดุที่คล้ายกับแผ่นผ้าที่ทำจากทองคำ(Gold-Lacedtab จะขอเรียกย่อๆว่า tab) ซึ่งสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าขึ้นมาได้จากการเคลื่อนไหวของร่างกาย นั่นหมายความว่าในอนาคตอันใกล้นี้เราจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพียงการดีดนิ้ว ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวเรียกว่า Triboelectric nanogenerator (TENG) ที่อาศัยหลักการพื้นฐานทางฟิสิกส์อย่างไฟฟ้าสถิต แต่ก่อนที่เราจะลงลึกกับหลักการทำงานของอุปกรณ์ดังกล่าว เราจะต้องเข้าใจโครงสร้างของมันเสียก่อน
ซึ่ง tab ที่ว่านี้ทำจากแผ่นฟิล์มบางของทองคำสองแผ่นที่ถูกคั่นด้วยโพลิเมอร์ประเภท polydimethylsiloxane(PDMS) โดยโพลิเมอร์ดังกล่าวเป็นวัสดุประเภทเดียวกันกับที่ใช้ในการทำคอนแทกเลนส์ และเมื่อเราทำการขยับ tab ที่ว่าจะทำให้เกิดการเสียดสีขึ้นระหว่างแผ่นทองคำกับโพลิเมอร์ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าสถิต(ประจุไฟฟ้าบนผิวของทองคำ)ขึ้นมา จากนั้นประจุไฟฟ้าที่เกิดขึ้นมาจะทำการเคลื่อนที่ระหว่างแผ่นทองคำสองแผ่นกลายเป็นกระแสไฟฟ้าในที่สุด
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะฟังดูน่าทึ่ง แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นักวิจัยได้ทำการคิคค้น nanogenaratorที่ใช้หลักการของ TENG ขึ้นมาเพราะก่อนหน้าที่จะมาเป็น tab นั้น นักวิจัยจากนานาประเทศเคยพัฒนาอุปกรณ์ไฟฟ้าที่สามารถผลิตกระแสขึ้นได้จากการขยับของร่างกายมาก่อนแล้ว แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่นักวิจัยสามารถสร้างอุปกรณ์ขึ้นมาได้ในราคาที่ถูกและง่ายต่อการผลิต
โดย tab ดังกล่าวมีขนาดเพียง1.5 x 1 ตารางเซนติเมตร และสามารถผลิตแรงดันไฟฟ้ากับกระแสไฟฟ้าได้มากถึง 124 โวลต์ , 10 ไมโครแอมแปร์ ตามลำดับ ซึ่งกำลังไฟฟ้าที่สามารถผลิตได้ในตอนนี้นั้นยังไม่มากพอที่จะใช้ในการชาร์จมือถือ แต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้หลอด LED สว่างขึ้นพร้อมกันได้ถึง 48 หลอดในเวลาเดียวกันเลยทีเดียว
โดยเป้าหมายต่อไปของทีมนักวิจัยจาก CAS คือการพัฒนาให้ tab สามารถผลิตพลังงานได้มากขึ้นกว่านี้ รวมถึงทำการติดตั้งแบตเตอร์รี่ที่ทำการเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากการเคลื่อนไหวของร่างกาย ซี่งไม่แน่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเราอาจได้ใช้เทคโนโลยีนี้จริงๆก็เป็นได้